เข้าสู่สัปดาห์ที่ 8 ของการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีกกันแล้วครับคุณผู้อ่าน ศึกครั้งนี้เป็นแม็ทซ์การแข่งขันที่น่าดูน่าชมเหลือเกิน เพราะเป็นการฟาดแข้งกันระหว่างหงส์แดงผงาดฟ้าผู้ครองตำแหน่งจ่าฝูงมาสองอาทิตย์ (เพราะติดเบรคทีมชาติ) กับทัพสิงห์บูลราชสีน้ำเงินผู้ที่ฟอร์มดีเหลือเกินในระยะหลัง ครองอันดับ 4 ในตารางพร้อมกับการไม่แพ้ใครเลยใน 5 นัดหลังสุด แรงกดดันน่าจะอยู่ทางฝั่งเจ้าบ้านอย่างลิเวอร์พูลมากกว่า การเล่นต่อหน้าแฟนบอลในแอนด์ฟิลด์บวกกับการแบกตำแหน่งที่ 1 ไว้บนบ่า เป็นไปได้ว่าอาจจะเล่นแบบเกร็งหรือผิดธรรมชาติได้ ประกอบกับนี่จะเป็นบททดสอบด่านแรกของ Arne Slot กุนซือหัวลูกชิ้น ที่จะได้วัดกึ๋นกับทีมที่ชื่อชั้นบรรดาศักดิ์ระดับเดียวกันสักที เพราะก่อนหน้านี้เขาเองก็โดนวิพากษ์วิจารณ์เยอะว่ายังไม่เจอของจริง เชลซีไม่ใช่ทีมละอ่อนน้อยให้ตบเล่นง่าย ๆ แน่ ตัวรุกของพวกเขารอบจัดมาก ทำประตูรวมกันตั้ง 16 ประตูซึ่งเยอะกว่า 13 ประตูที่ลิเวอร์พูลทำได้ซะอีก แม็ทซ์นี้จะออกแนวไหน เรามาวิเคราะห์วิจารณ์พร้อมกับเทียบเคียงสถิติดูกันดีกว่าครับ 1. ลิเวอร์พูลอันตราย มีผู้เล่นสำคัญบาดเจ็บมากกว่า ลองไปเช็คข่าวดูครับคุณผู้อ่าน แล้วจะพบว่าจากการสัมภาษณ์ของ Enzo Maresca กุนซือของเชลซี แกจะพูดถึงเคสของ Reece James เยอะ แกบอกว่า ณ ตอนนี้นักเตะรายนี้สามารถลงเล่นได้แล้ว แต่ไม่สามารถเล่นได้เกิน 1 เกมใน 1 สัปดาห์ ทุกอย่างต้องค่อยเป็นค่อยไป Ben Chilwell บาดเจ็บลงไม่ได้เช่นกัน แต่ข่าวไม่ได้บอกว่าเจ็บตรงไหน ส่วน Wesley Fofana กับ Marc Cucurella สองคนนี้ลงไม่ได้เพราะติดโทษแบนจากการสะสมใบเหลืองครบกำหนด ตัดมาดูฝั่งลิเวอร์พูล Arne Slot ไม่ได้ยืนยันว่า Alexis Mac Allister จะลงเล่นได้หรือไม่ หลังจากเล่นไป 66 นาทีในเกมทีมชาติแล้วโดนเปลี่ยนออก อาจจจะต้องเช็คกันจนถึงวินาทีสุดท้าย เช่นกันกับในรายของแบ็คซ้ายอย่าง Kostas Tsimikas รายนี้ก็มีอาการป่วยติดมาจากทีมชาติ ระยะหลังเขามักจะถูกส่งลงมาสลับกันเล่นกับ Andy Robertson อยู่บ่อย ๆ ถือเป็นตัวสำคัญอยู่เหมือนกัน นายประตูตัวจริงอย่าง Alisson Breaker ยังคงเจ็บแฮมสตริง ทว่าผมเห็นนายประตูลูกหมี Kelleher ปรากฏตัวในคลิปซ้อมกับทีมที่ศูนย์ฝึกแล้ว คิดว่าแม็ทซ์นี้แฟนหงส์คงไม่ได้เห็นมือโกลล์ปริศนาอย่างนัดที่แล้วอีก ส่วนในรายของ Federico Chiesa นักเตะใหม่ถอดด้ามจากอิตาลี จนป่านนี้พี่แกก็ยังเรียกความฟิตไม่เสร็จสักที เขายังคงไร้ชื่อในทีมต่อไป จะเห็นว่าในพาร์ทของลิเวอร์พูลนั้น ผมเขียนได้หลายบรรทัดกว่าฝั่งของเชลซีมาก นั่นก็เพราะแต่ละตัวล้วนเป็นผู้เล่นที่สำคัญต่อทีม ลิเวอร์พูลไม่ร้อยเปอร์เซนต์แน่นอน ในขณะที่เชลซีก็น่าจะอยู่ที่ 80 - 90 % Cole Palmer ยังอยู่ Jadon Sancho ก็มี ทางขวามี Noni Madueke ข้างบนก็มี Nicolas Jackson ว๊าย! สยองแทนแฟนหงส์ในแอนด์ฟิลด์เหลือเกินครับ คิดว่า Cole Palmer น่าจะแจกผ้าห่มให้แฟน ๆ สักสองสามผืน 2. สถิติการพบกันของทั้งสองทีม สองทีมยักษ์ใหญ่นี้เคยพบกันในพรีเมียร์ลีกมาแล้ว 64 เกม สถิติเรียกได้ว่าโคตรบ้าบอเลยครับคุณผู้อ่าน เพราะเป็นอะไรที่สูสีเบียดบี้กันสุด ๆ โดยเป็นฝั่งของลิเวอร์พูลที่ชนะมากกว่าที่ 24 ครั้ง ส่วนเชลซีชนะ 21 ครั้ง เสมอกัน 19 ครั้ง เรียกได้ว่าไม่มีใครขี่ใคร ส่วนการพบกัน 5 ครั้งหลังสุด (นับเฉพาะพรีเมียร์ลีก) ก็สูสีกันอีกเช่นกัน โดยเป็นฝั่งของลิเวอร์พูลที่ชนะได้ 1 ครั้ง ที่หลืออีก 4 แม็ทซ์ "เสมอ" กันหมดเลย นัดล่าสุดที่สองทีมนี้เจอกันคือวันที่ 31 ม.ค. 2024 ลิเวอร์เปิดแอนด์ฟิลด์เอาชนะไปได้ที่สกอร์ 4 - 1 เห็นแบบนี้แฟนหงส์อาจจะใจชื้นขึ้นนิดนึง แต่เดี๋ยวก่อนครับเพราะสถิติ 5 เกมหลังสุดนับตั้งแต่เปิดลีกมา เชลซีไม่แพ้ใครเลยนะครับ มีแค่หลุดเสมอฟอเรสต์กับคริสตัล พาเลซ นอกนั้นชนะรวดเก็บได้หมด ในขณะที่ฝั่งหงส์แดงถึงขั้นแพ้ฟอเรสต์คาบ้านในรอบ 55 ปีให้อับอายขายขี้หน้ากันไปทั้งโลกเลย 3. ผู้เล่นที่น่าจับตามอง ให้ตายเถอะคุณผู้อ่าน! ตอนแรกผมคิดว่าถ้าจะเปรียบมวยให้ถูกคู่ก็น่าจะเป็น Mohamed Salah ของลิเวอร์พูลเทียบกับ Cole Palmer ของเชลซี แต่พอลองไปเช็คข้อมูลดูผมกลับพบว่าตัวเลข จำนวนประตู , การแอสซิสต์ , การแท็คเกิล มันดันกลายเป็นฝั่งของเชลซีที่ดีกว่าผู้เล่นของลิเวอร์พูลหมดเลย ทำไมทีมอันดับ 4 ในตารางถึงดีกว่าทีมอันดับ 1 ไปได้นะ การยิงประตูสูงสุดคือ Cole Palmer ทำได้ 6 ประตู ตามมาด้วย Nicolas Jackson ที่ทำได้ 4 ประตู ในขณะที่ดีสุดของลิเวอร์พูลคือ Luis Díaz ที่ 5 ประตู จำวนการแอสซิสต์ก็ไม่ใช่คนที่ส่งบอลให้เพื่อนมากมายอย่าง Mohamed Salah แต่เป็น Cole Palmer ที่ทำได้มากถึง 5 ครั้ง ตัดมาดูในพาร์ทของการแท็คเกิลกันบ้าง ซึ่งก็ไม่ใช่ Gravenberch หรือ Alexis Mac Allister อีก หากแต่เป็น Moisés Caicedo ที่ทำการปะทะได้มากถึง 27 ครั้ง คนที่แท็คเกิลโดดเด่นของลิเวอร์พูลดันกลายเป็น Trent Alexander-Arnold ที่ทำได้เพียง 17 ครั้งเท่านั้น คือพอตั้งประเด็นว่าจะมองหาผู้เล่นที่น่าจับตามอง ชอยด์ที่มีให้เลือกดันกลายเป็นผู้เล่นฝั่งทีมเยือนอย่างเชลซีทั้งหมดเลย แม็ทซ์นี้เราจึงต้องตั้งตาดูครับ ว่า Arne Slot กุนซือร้านบะหมี่จะเค้นฟอร์มลูกทีมให้อัพเลเวลขึ้นไปอีกขั้นได้ยังไง 4. Enzo Maresca ไม่น่ากลัวเท่าทูเคิ่ล หัวข้อนี้ผมคิดจากความเห็นส่วนตัวล้วน ๆ ครับ เพราะเท่าที่ผมดูลิเวอร์พูลมานับเฉพาะในยุคของเจอร์เก้น คล็อปป์ ผมว่าโค้ชของเชลซีที่น่ากลัวที่สุดคือโทมัส ทูเคิ่ล ผมอาจจะไมมีสถิติตัวเลขที่แน่นอนแต่เท่าที่ผมจำได้ ผมไม่เคยเห็นเจอร์เก้น คล็อปป์ ชนะทูเคิ่ลได้เลยสักครั้ง ที่ชนะได้ก็มาจากการดวลจุดโทษในบอลถ้วย ซึ่งปัจจัยความเป็นไปได้มันคือ 50 : 50 มันไม่ได้มาจากความสามารถในการแก้เกมหรือวางแท็คติกของโค้ชแต่อย่างใด สิ่งที่ผมจะสื่อคือปัจจุบันทูเคิ่ลไปคุมทีมชาติอังกฤษแล้ว และเจอร์เก้น คล็อปป์ ก็ไปทำงานเป็นผู้บริหาร ตอนนี้เหลือแค่ Enzo Maresca กับ Arne Slot ที่ก็ใหม่ด้วยกันทั้งคู่ ศักดิ์ศรีบารมีของโค้ชคู่นี้คือพอ ๆ กัน เพราะฉะนั้น Arne Slot จึงไม่มีอะไรจะต้องกลัว นี่คือแม็ทซ์ที่เหมาะมากที่เขาจะได้พิสูจน์ตัวเอง แอนด์ฟิลด์หลัง ๆ เสียงไม่ค่อยดังนะครับ ด้วยบอลที่ไม่ได้เล่นเอ็นเตอร์เทนเหมือนเก่า ผู้จัดการทีมก็ไม่ได้ปั๊มหมัดทุบหน้าอกป๊าบ ๆ เหมือนเช่นคนเดิม ก็คงจะมีแต่ต้องเก็บชัยชนะสวย ๆ ให้ได้ กระแสการยอมรับถึงจะถาโถมเข้ามา ผมว่าลึก ๆ แล้ว Arne Slot ก็เฝ้ารอแม็ทซ์นี้อยู่ไม่ต่างจากเราหรอกครับ คาดการณ์ผลสกอร์ที่เกิดขึ้น : ลิเวอร์พูลชนะ 1 - 0 หรือ เชลซีเต็มที่ได้แค่เสมอแบบมีสกอร์ 1 - 1 , 2 - 2 , 3 - 3 เครดิตรูปภาพ ภาพหน้าปก 1 จาก FB : Liverpool FC ภาพหน้าปก 2 จาก FB : Chelsea Football Club รูปที่ 1 จาก FB : Chelsea Football Club รูปที่ 2 จาก FB : Liverpool FC รูปที่ 3 จาก FB : Liverpool FC รูปที่ 4 จาก FB : Liverpool FC ส่องนักบอลตัวเต็ง ดูสดระเบิดแมทช์สุดมันส์บน App TrueID โหลดฟรี !